‘ร้านอาหารอินเดีย’ TAPORIC เสิร์ฟ ‘อาหารอินเดีย’ ไม่เหมือนใคร

เมื่อทราบข่าวว่า มี ร้านอาหารอินเดีย เปิดใหม่ ชื่อว่า Taporic  อยู่ในซอย สุขุมวิท 47 เป็น อาหารอินเดีย ที่รวบรวมประสบการณ์ด้านอาหารจากทั่วทั้ง ประเทศอินเดีย จากมุมไบ ไปจนถึงเทือกเขาหิมาลัย ทีแรก หมูหวานชวนชิม  นึกไม่ออกเลยว่าหน้าตาของอาหารจะออกมาเป็นแบบไหนกันแน่

เมื่อเดินทางไปถึงที่หน้าร้าน ก็รู้สึกชอบที่เขาตกแต่งร้านได้น่ารัก คล้ายๆกับฮาวาย สไตล์ Tropical ผสมผสานศิลปะของอินเดียทั้งเก่าและใหม่ออกมาได้อย่างลงตัว รู้สึกทึ่งตั้งแต่เดินผ่าน ซุ้มประตูไม้โบราณอายุกว่า 200 ปี ของแต่งร้านทั้งหมดมาจากอินเดีย  แม้กระทั่งช้าง 5 เชือกที่ยืนต้อนรับอยู่หลายมุมของร้าน  ทำให้เราหลงเสน่ห์ในความน่ารักของ ร้านTaporic ตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้าตาของ อาหาร เลยทีเดียว

Tapori  เป็นภาษาฮินดี แปลว่า นักเดินทาง และคำสแลงยังหมายถึง ร่าเริง น่ารัก อีกด้วย เมื่อเห็นบรรยากาศโดยรอบของร้านแล้ว ก็เหมาะกับชื่อร้านที่แปลได้ทั้งคำว่านักเดินทาง และความร่าเริงสนุกสนานน่ารัก

เนื่องจากคุณ โรหิต ชาร์มา เจ้าของร้านเป็นทั้งเชฟ และนักเดินทางที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม และอาหารอินเดีย ทั่วภูมิภาค 28 รัฐ และ 8 ดินแดนสหภาพ

Dal Pakwan ประกอบด้วยถั่วเลนทิล ถือว่าเป็นอาหารเช้าแบบดั้งเดิม ของซินธี ที่ชาวอินเดียมักรับประทานในวันหยุดสุดสัปดาห์ เวลารับประทานให้เคาะแผ่นกรอบด้านบนให้แตกแล้วคนเบาๆให้สส่วนผสมเข้ากันในแก้ว เราก็จะได้รับรสชาติ ความเป็นอินเดียเบาๆ ของโยเกิร์ต หัวหอม ซัทนีย์ ผักชี และความหวานของอินทผลัม (ราคา 350 บาท)

ในขณะที่ตำราอาหารอินเดีย ทั่วโลก มาจาก ตำราอาหารแบบโมกุส-ปัญจาบ ทว่า อาหารใน ร้าน Tapori แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างโดยสิ้นเชิง แต่ยังคงกลิ่นอายของวัตถุดิบ ความมีตัวตนของอาหารอินเดีย ผ่านการนำเสนอที่แปลกออกไป จนเราคาดไม่ถึง

ร้านอาหารบรรยากาศดี ติดตั้งเครื่องปรับอากาสเย็นฉ่ำ เหมาะกับการหลบลมร้อนในช่วงนี้ไปนั่งเย็นๆ สั่งอาหาร และเครื่องดื่ม ทั้งค๊อกเทล และม็อกเทล ที่ทำให้เราทึ่งได้ไม่หยุดหย่อน หมูหวานชวนชิม คิดว่าร้านนี้เหมาะกับ อาหารมื้อค่ำ สำหรับครอบครัว

และอย่าหวังว่ามาร้านนี้แล้วเราจะได้เห็น อาหารอินเดีย อย่างที่เคยเห็น อาทิ dal makhani, butter chicken หรือ idli-sambar  เพราะเมนูของ Tapori  ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาให้เรารู้สึกเหนือความคาดหมาย

ได้เวลาลิ้มรส อาหารอินเดีย ที่เรารอคอยแล้ว เมื่อเมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง  Kala Chana Ghugni เดินทางมาถึงตรงหน้า นั่นก็คือ ข้าวเม่า (ข้าวชนิดแบน) เสิร์ฟมากับ ถั่วชิกพีดำจากรัฐพิหาร หรือใครจะเลือกจานแรกเป็น Siddu (เกี๊ยวยัดไส้) จาก รัฐหิมาจัล ประเทศ, ปลาหมึกปรุงสไตล์อานธร

Kala Chana Ghugni อาหารเรียกน้ำย่อย ที่ทำจากข้าวเม่าชนิดแบน และถั่วชิกพีดำ สตรีทฟู้ดจากรัฐพิหาร ในอินเดีย ( 320 บาท)  

เซวิเชหอยเชลล์จากรัฐกัว, Tabak Maas (ซี่โครงแกะติดเนื้อ) จากแคชเมียร์, Kheema Ghotala (เนื้อบดในเครื่องเทศ) จากมุมไบ ก็ได้นะ แต่วันนี้ หมูหวานชวนชิม ได้ลิ้มรสเมนูที่มีชื่อว่า  Wahan Mosdeng สลัดเนื้อหมูของรัฐตริปุระ คล้ายๆยำของบ้านเราทว่าไม่มีรสเผ็ดนะจ๊ะ

Wahan Mosdeng  อาหารจานนี้ รสชาติคล้ายยำ ทว่าไม่เผ็ด มาจากรัฐตริปุระ ตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย เป็นสลัดหมู ที่อร่อยเลยทีเดียว

Tawa – Masala Kaleji ice Cream เมื่อได้ลิ้มรสแล้วถึงกับอุทานออกมาด้วยความดีใจ เพราะมันคือไอศกรีมรสตับไก่ใส่เครื่องเทศ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากงานแต่งในเดลลี ที่ผสมผสานอาหารคาว-หวานได้ลงตัว (420 บาท)

Pork Vindaloo เรียกง่ายๆว่า ‘หมูสามชั้นซอสเปรี้ยวหวาน’ ในเวอร์ชั่นอินเดีย อร่อยอย่างเหลือเชื่อ จานนี้มาจากเมืองกัลกัตต้า เสิร์ฟพร้อมขนมปัง Goan Poee Bread เป็นขนมปังสไตล์อินเดีย (480 บาท)

ส่วนเมนูอาหารจานหลัก นำเสนอรสชาติของอาหารประจำภูมิภาคอย่างเช่น Natukozhi Pulusu ไก่หมักจากรัฐเตลังคานา ทว่าวันนี้เราเลือก Masur Tenga (แกงปลา) รสเปรี้ยวของรัฐอัสสัม

Amristari Machi เป็นอีกเมนูสตรีทฟู้ด มีปลาชุบแป้งทอดกรอบ รับประทานกับซัทนีย์มินต์ และมะม่วงดองรสเปรี้ยว จานนี้เป็นความอร่อยจากปัญจาบฟีล (420 บาท)

Jadoh & Oma Sibing เป็นข้าวหมกเนื้อหมู ที่อร่อยเกินหน้าตา อาหารเช้าแบบดั้งเดิมของชาวกาสีทาเมฆาลัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ในส่วนของข้าวที่ปรุงมานั้นมีเนื้อหมูและมันหมู และความหอมของขิง พริกไทย ขมิ้นลากาดง เสิร์ฟพร้อมโบโดลา แกงหมูงาดำอัสสัมให้รสสัมผัสแปลกใหม่ (600บาท)

หรือใครจะเลือก เนื้อผัดพริกสไตล์รัฐเกรละอันโด่งดัง, Lobster Assad จากปุฑุเจรี ก็ได้ ทว่า หมูหวานชวนชิม ขอชิม  Jadoh & Oma Sibing ข้าวหมกเนื้อหมู ซึ่งเป็นอาหารเช้าของชาวกาสีทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ ประเทศอินเดีย 

หากเป็นเมนูไร้เนื้อสัตว์ จะเห็นได้ว่า อาหารอินเดีย ของ ร้าน Tapori ไม่นำเสนอเมนูมังสวิรัติแบบทั่วไปง่ายๆเพียงแต่หาอะไรก็ได้มาแทนเนื้อสัตว์ แต่กลับเสิร์ฟอาหารมังสวิรัติในแบบดั้งเดิม อาทิ ผักหัว รวมมิตรปรุงสไตล์คุชราต

Gobhi Musallam เป็นอีกจานที่รู้สึกสุขภาพดี เป็นดอกกะหล่ำย่าง เสิร์ฟพร้อมบีทรูททั้งหัวอยู่ตรงกลาง เมนูวีแกน จากรัฐอุตตรประเทศ ให้รสชาติแบบอินเดียๆ ขอยกให้จานนี้เป็นที่หนึ่งในดวงใจ (380บาท)

Undhiyu เสิร์ฟพร้อมขนมปังแฟลตเบรดเมล็ดลูกซัดและ ข้าวฟ่าง, Mochar Chop มันฝรั่งบดสอดไส้หัวปลีทอดจากรัฐเบงกอลตะวันตก และหมูหวานก็ได้ชิม Gobhi Musallam เป็นกะหล่ำดอกย่าง จากรัฐอุตตรประเทศ และ Bajra Khichda โจ๊กถั่วเลนทิลและข้าวฟ่างจากรัฐราชสถานที่แสนอร่อย

Idukki Gold พุดดิ้งนมแบบดั้งเดิมของทางตอนใต้อินเดีย มักเสิร์ฟในงานเฉลิมฉลอง (350 บาท)

จากนั้นก็ได้เวลาของขนมหวาน  ทางร้านเขามีเมนูที่ชื่อว่า Lonavala Chocolate Fudge ขนมซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากเส้นทางแห่งความทรงจำบนสถานีเนินเขาของ Lonavala ที่ขึ้นชื่อในเรื่องชิกกิ (ขนมถั่วลิสงตัด) ทว่า หมูหวานชวนชิม ได้ชิม 2 เมนูก็คือ Idukki Gold พุดดิ้งนมแบบดั้งเดิมของทางตอนใต้อินเดีย มักเสิร์ฟในงานเฉลิมฉลอง

Benami Kheer สีเขียวๆ หมายถึงทำจากผักและนม เป็นของหวานที่อร่อยแบบไม่คิดมาก่อน (350บาท)

และ Benami Kheer ขนมสีเขียวๆ เหมือนลายฉลุสวยงามราวกับงานศิลปะ เป็นขนมที่ทำจากผักและนม เท่านั้น อร่อยแบบไม่คิดคาดคิดมาก่อน

ซุ้มประตูไม้โบราณ อายุ 200 ปี ทางเข้าร้าน Tapori

อย่างที่เล่าไปตอนต้นว่า ของแต่งร้านทุกอย่าง คุณ โรหิต ชาร์มา เจ้าของร้านเขานำเข้าจากอินเดีย อาทิ ซุ้มประตูไม้โบราณอายุ 200 ปี นำเข้าจาก รัฐราชสถาน เพื่อมาใช้ตกแต่งภายในร้าน  

มุมหนึ่งของร้าน ของตกแต่งทุกอย่างนำเข้าจากอินเดีย 

โต๊ะอาหารมีหลายแบบให้เลือกทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยม

ช้างจากอินเดีย ยืนต้อนรับตามมุมต่างๆของร้าน 

ของแต่งร้านที่มีความหมาย

ของแต่งร้าน ลายฉลุพิมพ์ไม้ของอินเดีย

อาหารคำเล็กๆเรียกน้ำย่อย มีส่วนผสมของมะขามอร่อยมาก

ค็อกเทล ม็อกเทล ที่นี่ฝีมือไม่ยิ่งหย่อนกว่าที่ใด

ค็อกเทลแก้วโปรดของหมูหวานชวนชิม

Pichwai งานศิลปะแต่ละรูปแบบนี้มีความสำคัญและนำเสนอภาษาภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของอินเดีย ภาพโมเสกกระจกตัดด้วยมือรูปนกยูงสูงตระหง่าน และภาพวาดสีน้ำมันบนผืนผ้าใบรูปผืนน้ำของรัฐเกรละซึ่งมีความยาว 32 ฟุต ทำให้พื้นที่ในร้านดูมีชีวิตชีวา และเชื่อมต่อช่องว่างระหว่างการออกแบบร่วมสมัยและศิลปะแบบดั้งเดิมได้อย่างกลมกลืน

ระเบียงด้านนอกร้าน Tapori สำหรับผู้ที่ต้องการอากาศธรรมชาติ

ระเบียงด้านนอกเป็นสถานที่พักผ่อนในการรับประทานอาหารอันเงียบสงบ ผสานเข้ากับธรรมชาติอย่างไม่มีรอยต่อด้วยฉากหลังของจิตรกรรมฝาผนังที่รวบรวม แก่นแท้ของการเล่าเรื่องอินเดียผ่านสีสันและลวดลายที่สดใส Tapori เป็นมากกว่าจุดหมายปลายทางแห่งการรับประทานอาหาร  มีความงามของศิลปะซ่อนอยู่ในทุกอนูของร้านไม่เว้นแต่ห้องน้ำเลยทีเดียว

ร้านอาหารอินเดีย Tapori  สุขุมวิท 47  (ติดกับโรงเรียนอนุบาลนานาชาติคิดส์ คิงดอม) เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.30 – 23.00 น. ให้สำรองที่นั่งได้แล้ววันนี้ ติดต่อสำรองที่นั่งได้ที่โทร. 064 569 3798

 หรืออีเมล [email protected]

Instagram: @taporibkk

Facebook: taporibkk

2024-04-23T01:44:10Z dg43tfdfdgfd